11.9.57

ชะลอความแก่ด้วยงาดำ



ลดคอเลสเตอรอลในเลือด

          ใน การรักษาความอ่อนเยาว์ของผิวพรรณ คนเราต้องการอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต วิตามิน เกลือแร่ โปรตีน ไขมัน เส้นใยอาหารและน้ำ ดังนั้นการกินอาหารให้ครบหมวดหมู่ในปริมาณที่พอเหมาะสมดุลกัน เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม สารต้านอนุมูลอิสระก็มีความสำคัญมากเช่นกัน สารต้านอนุมูลอิสระจะเป็นตัวชะลอความแก่หรือความเสื่อม โดยจะพบมากในอาหารประเภทผัก ผลไม้และเมล็ดธัญพืช เป็นต้น 

  สาร ต้านอนุมูลอิสระที่มีในอาหารธรรมชาติ เช่น วิตามินเอ บีรวม ช่วยดูแลเรื่องผิวพรรณ วิตามินซี ช่วยสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นส่วนประกอบของชั้นหนังแท้ และวิตามินอี ช่วยปกป้องผนังเซลล์ โดยสารอาหารเหล่านี้ควรได้รับในปริมาณที่พอดี ไม่มากเกินไป ซึ่งเพียงการรับประทานอาหารตามธรรมชาติก็อาจช่วยให้เราได้รับสารอาหารเหล่า นี้อย่างพอเพียง

          พบ ว่างาดำเป็นธัญพืชที่ได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลกเป็นเวลานานว่า เป็นธัญพืชที่ให้คุณค่าทั้งบำรุงสุขภาพและบำรุงความงาม เพราะในเมล็ดงาดำนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงและมีทั้งวิตามินเอ กลุ่มวิตามินบีรวม วิตามินซี และวิตามินอี โดยวิตามินอีในงาดำ นอกจากจะมีคุณสมบัติช่วยซ่อมแซมผิวและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผิวพรรณแล้ว ยังช่วยเก็บออกซิเจนและลดคอเลสเตอรอลในเลือด ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอความเสื่อมของผิวอีกด้วย นอกจากนี้ในงาดำยังมีสารอาหารและวิตามินอื่นๆ อีกมาก โดยเฉพาะแคลเซียมสูงมาก ว่ากันว่าสูงกว่านมวัวถึง 6 เท่าทีเดียว ดังนั้นงาดำจึงทำให้กลายเป็นธัญพืชยอดนิยมที่ถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการ ปรุงอาหารทั้งคาวหวาน และเครื่องดื่มหลากหลายเมนู ในการเลือกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีงาดำเป็นส่วนประกอบนั้น ควรเลือกที่มีส่วนผสมในปริมาณที่เข้มข้นและมากพอเพียงสำหรับความต้องการของ ร่ายกาย และถ้ามีส่วนประกอบของวิตามินอื่นๆ ด้วยก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับคุณประโยชน์สูงสุด และจำเป็นต่อการบำรุงสุขภาพให้ดูอ่อนเยาว์

          การ เลือกรับประทานสารอาหารหลักในชีวิตประจำวันให้ครบทุกหมวดหมู่ ทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน เกลือแร่และน้ำ ซึ่งล้วนแต่จะเป็นอาหารที่ผิวต้องการในการรักษาสุขภาพผิวหรือในการบำบัดความ ผิดปกติที่เกิดขึ้นกับผิว ที่สำคัญควรเน้นอาหารประเภทผักและผลไม้สด อย่างน้อยวันละ 8-10 ส่วน ซึ่งอุดมด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระเช่น วิตามินซี อี และเบตาแคโรทีน ฯลฯ ซึ่งจะเป็นตัวต่อต้านอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุสำคัญของอาการเสื่อมของร่างกาย จะส่งผลให้มีสุขภาพดีทั้งภายในและภายนอก

          นอก จากนี้ต้องพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลีกเลี่ยงหรือปล่อยวางจากความเครียด และหลีกเลี่ยงปัจจัยเร่งแก่ต่างๆ จากภายนอกที่ทำอันตรายต่อผิว ไม่ว่าจะเป็นรังสียูวีจากแสงแดดจัดๆ ในช่วงเวลาประมาณ 10.00-15.00 น. มลภาวะต่างๆ ในอากาศ สารพิษในอาหาร น้ำดื่มที่ไม่สะอาด เชื้อไวรัส ควันบุหรี่ เขม่าควันและอนุมูลอิสระ ทั้งนี้ต้องรักษาผิวพรรณให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอด้วยการดื่มน้ำ ทาครีมที่มีสารกันแดด spf 15 รวมทั้งการใส่ใจในอาหารและโภชนาการ ทำจิตใจให้เบิกบานแจ่มใส หัดมองโลกในแง่ดี การออกกำลังกายที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอและพักผ่อนให้เพียงพอ เหล่านี้จะช่วยดูแลรักษาสุขภาพและชะลอความเสื่อมของร่างกายและผิวพรรณของ ท่านให้ดีดูอ่อนเยาว์ได้






ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง  โดย ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์ ประธานมูลนิธิคุณแม่คุณภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น